
สูตรอาหารอีสาน เมนูชั้นสูงอย่าง แกงผักหวานใส่ไข่มดแดง จะน่ารับประทานแค่ไหน?
สูตรอาหารอีสาน ของกินแสนอร่อยของ เมนูอาหารอีสาน ต้องบอกเลยว่า เมื่อพูดถึงอาหารอีสาน ทุกๆคนก็คงจะคิดถึง ความแซ่บมาเป็นอันดับ 1 ไม่ว่าจะเป็น ส้มตำ ลาบ ก้อย สำหรับสูตรเมนูสุดแซ่บ เป็นเมนูที่หาทานได้ยากอย่าง แกงผักหวานใส่ไข่มดแดง ซดร้อนๆซักคำ บอกเลยว่าคล่องคอ ใครที่อยากจะทำตาม เตรียมจดสูตรกันเลย วิธีการทำก็ไม่ได้มีความยุ่งยาก พร้อมแล้ว ไปติดตามพร้อมๆกัน
วัตุดิบเมนูแกงผักหวานใส่ไข่มดแดง (หม้อใหญ่ กินได้ทั้งบ้าน)
- ไข่มดแดง (ตามชอบ)
- ยอดผักหวาน 2-3กำ
- ใบแมงลัก 2-3กำ (ยิ่งใส่เยอะยิ่งหอมอร่อย)
- น้ำปลาร้า 2-3ทัพพี
- น้ำเปล่า 2.5ลิตร
- น้ำปลา ครึ่งทัพพี
- พริกจินดำโขลกหยาบ 20เม็ด
- ตะไคร้หั่นทอน 4ต้น
- หอมแดง 10หัว
- เกลือ 1ช้อนโต๊ะ
- เห็ดโคน หรือเห็ดนางฟ้า เห็นอะไรก็ได้ที่ท่านชอบ 2ขีด (200กรัม)
วิธีทำแกงผักหวานใส่ไข่มดแดง
ขั้นตอนแรกเลยก็คือ ให้เทน้ำเปล่าลงในหม้อ แล้วยกตั้งไฟ หลังจากที่น้ำเดือด ก็ให้นำเครื่องแกงอย่าง ตะไคร้บุบ พริก หอมแดง เกลือ ที่โขลกรวมกัน มาใส่ในหม้อ แล้วนำเห็ดลงไปต้ม รอให้น้ำเดือดอีกครั้ง ปรุงรสด้วย น้ำปลา น้ำปลาร้า จากนั้นใส่ไข่มดแดง และปักหวานลงไป ปรุงรสให้นัว จากนั้นปิดไฟ ลงยกจากเตา พร้อมเสิร์ฟ กินกับข้าวเหนียวร้อนๆ รับรองเลยว่า อร่อยนัวแน่นอน
สูตรอาหารอีสาน เมนูยอดฮิตอย่างหมกฮวก จะมีวิธีการทำอย่างไร?
นี่คือวลีเด็ด “ห่อหมกฮวก เอาไปฝากป้า” ตามเพลงดัง ที่ติดหูคนฟังทั่วประเทศ หลายคนอาจจะสงสัย ว่าเมนูหมกฮวกนี้คืออะไร แล้วทำมาจากอะไร คำว่า “ฮวก” ภาษาอีสานแปลว่า ลูกอ๊อดของกบ โดยจะมีการนำเอาลูกอ๊อด มาคลุกเคล้ากับ เครื่องเคราต่างๆ ปรุงรสให้อร่อยนัว ดังนั้นแล้ว ในวันนี้ป้าจะมาสอนถึง สูตรการทำหมกฮวก เมนูอีสานสุดแซ่บ ทำเสร็จแล้ว เอาไปฝากป้า หรือจะกินเองก็ได้เลย แจกสูตรการทำหมกฮวกสุดแซบ ไปดูกันดีกว่า ว่าสูตรเด็ดที่ว่านี้ จะเด็ดแค่ไหน?
วัตุดิบเมนูหมกฮวก (เอาไปฝากป้า ป้าไปนาเอาห้อยหน้าฮั้ว)
- ฮวก (ลูกอ๊อดกบ) ที่ทำความสะอาด ล้างเอาไส้ออกแล้ว ½ กิโลกรัม
- ตะไคร้ 4-5ต้น เพื่อเพิ่มความหอม และดับกลิ่นคาว
- หอมแดง 5หัว
- พริกจินดาแดง 10-15เม็ด
- น้ำปลาร้า 1ทัพพี
- น้ำปลา 3ช้อนโต๊ะ
- ต้นหอมหั่นทอน 4ต้น
- ผักชีหั่นท่อน 2ต้น
- ใบแมงลัก 2กำ
วิธีการทำหมกฮวก
นำฮวกมาทำความสะอาด ด้วยการล้างและควักไส้ ควักเครื่องในออก เพื่ออรรถรสในการรับประทาน จะได้ไม่ขมนั่นเอง แล้วนำไปเคล้าเกลือ เพื่อล้างเมือกคาว และล้างน้ำะอาดอีก2-3ครั้ง พักไว้ให้สะเด็ดน้ำ จากนั้นมาถึงคิวของ การตำเครื่องหมก ซึ่งเครื่องหมกจะมีดังต่อไปนี้ นำเอาตะไคร้ (ซอยก่อนหั่น จะได้ตำได้ง่าย) พร้อมด้วยหอมแดง และพริก ไปโขลกให้พอหยาบ ไม่ต้องถึงขั้นละเอียด
จากนั้นก็ให้ตักเครื่องหมก ไปใส่ลงในหม้อ จากนั้นใส่ฮวก แล้วปรุงรสด้วย น้ำปลาร้า น้ำปลา อาจจะเพิ่มผงนัวลงไปเล็กน้อย เพื่อความกลมกล่อม ใส่ต้นหอม และผักชีที่หั่นไว้ ลงไปเคล้าให้เข้ากัน แล้วตั้งไฟกลาง ปิดฝาหม้อไว้ ในที่นี้เราจะเรียก
การหมกในลักษณะนี้ว่า การหมกหม้อ แต่อีกหนึ่งรูปแบบ จะเป็นการหมกใส่ใบตอง คือการนำไปย่างไฟนั่นเอง เมื่อฮวกเริ่มสุก และน้ำเริ่มแห้ง ก็ให้ยกลงจากเตาได้เลย จกข้าวเหนียวมากินกับหมกฮวกกันได้เลย พูดแล้วน้ำลายสอ ขอตัวไปทำเมนูนี้ก่อนนะคุณผู้อ่านทั้งหลาย
สูตรอาหารอีสาน อีกหนึ่งเมนูสไตล์หมกอย่าง “หมกหน่อไม้” ความอร่อยที่พร้อมเสิร์ฟ
เวลาที่เราไปร้านส้มตำ ร้านลาบหรือ ร้านอาหารอีสาน สิ่งที่พลาดไม่ได้เลย และหลายคนไม่ลืมที่จะสั่ง นั่นก็คือ เมนูหมกหน่อไม้ สำหรับใครที่ยังไม่เคยลองเมนูนี้ บอกเลยว่าพลาดไม่ได้ เพราะนับว่าเป็น เมนูขายดี และเป็นซิกเนเจอร์ของ เมนูอาหารอีสานพื้นบ้าน เลยก็ว่าได้ ทั้งความหอม ความอร่อยนัวแบบกลมกล่อม ใครที่ได้ลิ้มลอง รับรองเลยว่าจะต้องติดใจ วันนี้เรามีสูตรการทำหมกหน่อไม้ มาฝากทุกๆคน เอาไปทำตามกันได้ รับรองเลยว่าสูตรนี้ เด็ดสะระตี่ ถ้าพร้อมแล้ว ไปติดตามกันเลย
วัตุดิบเมนูหมกหน่อไม้
- หน่อไม้ต้ม 1 กิโลกรัม
- หมูสามชั้นหั่นชิ้นตามชอบ 4ขีด
- ข้าวเบือ 3ช้อนโต๊ะ
- พริกกะเหรี่ยงหรือหรือจินดา 15เม็ด
- ข่าหั่นแว่น 1หัว
- ตะไคร้ซอย 4ต้น
- ใบมะกรูดฉีก5-10ใบ
- น้ำใบย่านาง 2ทัพพี
- น้ำปลาร้า 2ทัพพี
- น้ำปลา 1ช้อนโต๊ะ
- ใบแมลงลัก 1กำ
วิธีทำหมกหน่อไม้
ให้นำหน่อไม้ที่ต้มแล้ว มาขูดเป็นเส้น จากนั้นขำข้าวเบือมาตำในครก (ข้าวเบือคือข้าวเหนียว ที่เป็นข้าวสาน นำมาแช่น้ำให้ข้าวอ่อน แล้วนำข้าวนั้นมาตำ จะเรียกว่าข้าวเบือนั่นเอง) พร้อมด้วยพริกและข่า ตะไตร้ใบทะกรูด จากนั้นก็ตำๆๆให้ทุกอย่างเข้ากัน จากนั้นก็นำหน่อไม้ ที่เราได้พักไว้ มาเคล้ากับเครื่องที่เราตำในชาม นำหมูสามชั้นมาใส่ เติมรสชาติด้วย น้ำปลาและน้ำปลาร้า รวมไปถึงน้ำใบย่านาง จากนั้นใส่ใบแมงลัก
แล้วก็คนให้เข้ากัน นำส่วนผสมทั้งหมด ที่เราได้ทำการคลุกเคล้า ไปห่อด้วยใบตองกลัดด้วยไม้ แล้วนำไปนึ่งประมาณ 20-25 นาทีจนทุกอย่างสุก สังเกตุได้จาก สีของใบตอง หากสีมีลักษนะที่เข้มขึ้นมาก ก็แปลว่าสุกแล้ว จัดเสิร์ฟใส่จาน ทานคู่กับข้าวเหนียว เป็นหนึ่งใน เมนูอาหารอีสานสุดแซ่บ ที่อยากจะแนะนำ
ไฮไลท์ของสูตรเด็ดเมนูอีสาน ต้องยกให้กับเมนู “ตับหวาน”
ใครที่อยากจะหาเมนูแซ่บๆ เมนูอาหารอีสานอร่อยๆ แถมยังมีสรรพคุณ ช่วยในการบำรุงเลือด บำรุงโลหิต เพราะตับ อุดมไปด้วยแร่ธาตุต่างๆมากมาย ในตับมีทั้งธาตุเหล็กสูง จำเป็นต่อร่างกายของเรา ต้องยกให้กับเมนู ตับหวาน อาหารอีสานสุดฮิต ที่ได้รับความนิยมอย่างมาก ทำกินเองได้ง่ายๆ ใครที่อยากรู้สูตรกันแล้ว ก็มาดูกันเลยว่าตับหวานแซ่บๆ เขาทำกันอย่างไร
วัตถุดับการทำตับหวาน
- ตับวัว หรือตับหมู 300กรับ (ปริมาณ1จาน)
- ใบสะระแหน่1ต้น
- ต้นกอมซอย1ต้น
- หอมแดงซอย4หัว
- ผักชีฝรั่งซอย1ต้น
- พริกแห้ง4เม็ด
- น้ำมะนาว2ช้อนโต๊ะ
- พริกป่น1ช้อนโต๊ะ สามารถลดหรือเพิ่มความเผ็ดได้ตามใจชอบ
- ข้าวคั่ว1ช้อนโต๊ะ
- น้ำปลา1ช้อนโต๊ะ
วิธีการทำตับหวานสุดแซ่บ
ให้นำตับมาหั่นให้พอดีคำ จากนั้นต้มน้ำ ใส่น้ำไม่ต้องมาก ตั้งไฟให้น้ำเดือด เพื่อนำตับไปรวน ใส่เกลือลงไปเล็กน้อย เมื่อตับเริ่มสุกให้ปิดไฟ ยกลงจากเตา เทคนิคก็คืออย่าทำให้ตับสุกเกินไป เพราะจะทำให้แข็งและไม่อร่อย จากนั้นก็ปรุงรสได้เลยทันที ด้วยน้ำปลา พริกป่นและน้ำมะนาว จากนั้นก็ใส่หอมแดง ต้นหอมผักชีซอย ลงไปคลุกเคล้าให้เข้ากัน ชิมรสชาติเป็ดเค็มเปรี้ยวนัว ถ้าอร่อยถูกปากแล้ว ก็ให้ตักใส่จานแล้วโรยด้วยพริกทอด เป็นอันเสร็จพร้อมทาน เมนูอาหารอีสานเมนูสุดแซ่บนี้แล้ว
ปิดท้ายกันด้วย สูตรส้มตำสุดแซ่บอย่าง “ตำป่า” จะแซ่บแค่ไหน เตรียมจดสูตรเลย
เมื่อพูดถึง อาหารอีสานแบบบ้านๆ เมนูแรกเลย ที่ทุกๆคนคิดถึง และโด่งดังไปทั่วโลก นั่นก็คือเมนู “ส้มตำ” แต่ถ้าจะให้ตำมะละกอเฉยๆ มันก็คงจะดูธรรมดาไป วันนี้เราเลยจะมาพาทุกคน ไปเจอกับ สูตรเด็ดเมนูตำอย่าง ตำป่า บอกเลยว่า ฟินจนอยากจะซดน้ำปลาร้ากันเลยทีเดียว ซึ่งตำป่านี้ เป็นเมนูที่ได้มีการ รวมเอาวัตุดิบหลายๆอย่าง เข้ามาตำและเคล้ารวมกัน ไม่ว่าจะเป็น พระเอกอย่างหอยเชอรี่ ขนมจีน เม็ดกระถิน หน่อไม้ต้ม แค่พูดก็น้ำลายไหลแล้ว พร้อมที่จะจดสูตรความแซ่บหันหรือยัง ถ้าพร้อมแล้วไปดูกันเลย
วัตถุดับเมนูตำป่า
- เส้นมะละกอสับ 1กำมือ
- พริกแดง และพริกแห้ง 10-20เม็ดตามชอบ
- พระเทียม 3กลีบ
- มะกอก1ลูก
- มะเขือเปราะ1ลูก
- มะเขือเทศ2ลูก
- หน่อไม้ต้มหั่นเต๋า 1ทัพพี
- ผักชีผรั่งเด็ด1ต้น
- หอยเชอรี่ 1/2ทัพพี
- เม็ดกระถินโรยได้ตามชอบ
- น้ำปลาร้า2ทัพพี
- น้ำตาลปี๊ป1/2ช้อนโต๊ะ
- มะนาว2ลูก
- ขนมจีน1จับ
- ผงชูรส (ใส่หรือไม่ใส่ก็ได้ เพิ่มอรรถรสความนัว)
วิธีทำตำป่า
นำพริกสด พริกแห้ง และกระเทียมมาตำให้พอละเอียด จากนั้นใส่น้ำตาง ผงนัว น้ำปลาร้าและน้ำมะนาว โขลกเขาๆพอให้น้ำตาลละลาย จากนั้นชิมรสชาติ เอาให้แซ่บเผ็ดเค็ม ตามด้วยเปรี้ยวและหวาน ใครอยากจะใส่ปูเค็ม ก็ใส่ได้ตามชอบ เมื่อได้รสชาติที่ตรงจริตแล้ว ก็ใส่เส้นมะละกอ และเครื่องเคราทั้งหลาย ลงไปคลุกเคล้าให้เข้ากัน เคล้าเบาๆพอ เดี๋ยวจะเละ จากนั้นตักใส่จานโรยหน้าด้วยกระถิน เป็นอันเสร็จอีกหนึ่งเมนูอาหารอีสานที่น่ารับประทานมากๆ